The Long March Of Princess Changge (2021) สตรีหาญ ฉางเกอ (ซับไทย)
‘สตรีหาญ ฉางเกอ’ (The Long March of Princess Changge) ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากมังงะเรื่อง ‘ฉางเกอฉิง’ (Chang Ge Xing) ที่เขียนโดย Xia Da โดยถือเอาเหตุที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ตอนต้น ‘วงศ์สกุลถัง’เป็น‘เรื่องราวประตูเสวียนหวู่’ สถานะการณ์สำคัญคราวหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ช่วงปลายรัชสมัย ‘พระราชาธิราชถังเกาจู่’ ผู้จัดตั้งราชวงซ์ถังมาเป็นหัวเชื้อสำหรับเพื่อการเล่า แล้วใส่ผู้แสดงนำที่เทียบเช่น วีรสตรีบอบช้ำนางหนึ่งที่โดนยิงธนูแล้ว โดนยิงธนูอีก เข้าไปเป็นบุคคลสำคัญของเรื่องเป็น‘ฉางเกอ’ นางเอกของเรื่อง จนได้เจอรักกับ ‘อาซือเล่อสุ่น’ ผู้แสดงนำชายของเรื่อง คนที่มีชื่อเสียงว่าเป็นอีกทั้งมิตรรวมทั้งศัตรู
ตามประวัติศาสตร์จีนเล่าไว้ว่า องค์ชายรอง ‘หลี่ซื่อหไม่น’ พร้อมกำลังทหารได้ชิงลงมือลอบปลงพระชนม์ องค์ชายรัชทายาท ‘หลี่เจี้ยนเฉิง’ รวมทั้งองค์ชายสี่ ‘หลี่เหวียนจี๋’ ที่ประตูเสวียนหวู่ซึ่งเป็นประตูทางเหนือของพระราชสำนักหลวงที่ฉางอัน ทำให้องค์ชายรอง หลี่ซื่อหไม่น ได้รับการตั้งเป็นรัชทายาทต่อจาก หลี่เหวียนจี๋ พี่ชายแล้วก็ในอีก 6 วันถัดมา จักรพรรดิ์ถังเกาจู่สละราชบัลลังก์ ทำให้องค์ชายหลี่ซื่อหไม่น ได้สืบราชบัลลังก์เป็น ‘จักรพัตราธิราชถังไท่ต้อง’ แน่ๆว่า ‘ฉางเกอ’ ไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แม้กระนั้นมีตัวตนสะดุดตาเป็นนางเอกสมองแหลมอยู่ในประเด็นนี้ เหมือนกับมีตัวตนจริงๆอย่างงั้นล่ะ
ทำความเข้าใจสำหรับคนที่ยังไม่เคยมองซีรีส์หัวข้อนี้ หรือเพิ่งจะเคยมองซีรีส์จีนกันก่อนสักหน่อยจ้ะ กับตำแหน่งต่างๆที่กำลังจะได้พบเห็นในเรื่อง เนื่องจากว่าซีรีส์หัวข้อนี้จะใช้คำซึ่งเป็นตำแหน่งของเชื้อพระวงศ์ ที่บางคนบางทีอาจไม่คุ้นเคย ‘ไท่จื่อ’ คือ รัชทายาท มีอำนาจทุกๆอย่างรองจากฮ่องเต้ บุตรสาวของไท่จื่อ จะมีตำแหน่งเป็น ‘จวิ้นจู่’ เป็นองค์หญิงหรือท่านหญิง เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 3 ส่วนบุตรหญิงของ ‘ยอด’ จะมีตำแหน่งเป็น ‘เซี่ยนจู่’ ก็คือองค์หญิงหรือท่านหญิง ราวจวิ้นจู่ แม้กระนั้นเป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 4
ซีรีส์ถือ ‘สถานะการณ์ประตูเสวียนหวู่’ มาเล่าว่า ‘หลี่ฉางเกอ’ หรือ ‘หย่งหนิงจวิ้นจู่’ (ตี๋ลี่เร่อขว้าง) บุตรสาวของ ‘หลี่เจี้ยนเฉิง’ ไท่จื่อเวลานี้ มีชีวิตรอดจากเงื้อมมือของ ‘หลี่ซื่อหไม่น’ หรือ ‘ฉินอ๋อง’ ผู้ซึ่งเป็นอาแท้ๆในคราวที่มีการฆาตกรรมหมู่ทั้งยังเชื้อสาย ในชีวิตธรรมดา หลี่ฉางเกอ มักถูกใจแต่งตัวเป็นชายออกไปต่างประเทศวังเสมอๆ และก็เป็นสตรีที่มีวรยุทธเด่น เฉลี่ยวฉลาดเป็นกรด ช่ำชองตำราพิชัยสงคราม นางเก่งขนาดนี้มาได้ก็ด้วยการฝึกอบรมอบรมจาก หลี่ซื่อหไม่น คนฆ่าบิดาฆ่าแม่ของนางเองนี่แหละ ด้วยเหตุผลดังกล่าวความเชื่อมโยงของนักแสดงสองตัวนี้ ลึกซึ้งเยอะมากจนปัญญาเจ็บ
หลี่ฉางเกอ หนีการเข้าจับกุมหัวซุน และก็พกความแค้นเอาไว้เต็มพิกัด ตั้งอกตั้งใจแน่แน่วว่าจะทำทุกช่องทางเพื่อนำกำลังกลับมาฆ่า หลี่ซื่อหไม่น ให้ได้ โดยไม่รู้เรื่องเลยสักหน่อยว่าอาแท้ๆที่ตนเองรักราวกับบิดา เพราะอะไรจำเป็นต้องฆ่าบิดารวมทั้งแม่ของตนเองเพียงแต่เพื่อจะเป็นไท่จื่อ ซึ่งประวัติศาสตร์ส่วนนี้ได้เล่าไว้ว่า หลี่ซื่อหไม่น ซึ่งเป็นฉิ๋นอ๋องตอนนั้น ไม่ถูกกันกับพี่ตนเองแล้วก็ ฉี๋ยอด น้องชาย แม้กระนั้นก็หูดีรู้ข่าวสารมาว่า ไท่จื่อ และก็ฉี๋อ่อง กำลังร่วมมือกันคิดแผนกำจัดตัวเอง ก็ชิงลงมือก่อนเลยนะ หลอกสองคนนั้นไปที่ประตูเสวียนหวู่ แล้วปลิดชีพซะ เธอเอกทราบเนื่องจากไปได้ยินโดยบังเอิญผัวตนเองคิดแผนกำจัด หลี่ซื่อหไม่น นักประวัติศาสตร์ทราบ ผู้แต่งก็ทราบแม้กระนั้น นางเอกไม่รู้จัก
นางก็หนีไปด้วยความแค้น เศร้าใจรวมทั้งทำให้ความรู้สึกที่มีต่อ ‘หลี่เล่อเยียน’ (แรงวทางซือ) น้องสาวที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กๆรักใคร่กลมเกลียวพร้อมใจกับมาตลอดจำเป็นต้องแปรไป เนื่องจาก หลี่เล่อเยียน เป็นบุตรสาวของ หลี่ซื่อหไม่น เรื่องคราวนี้ทำให้ หลี่เล่อเยียน ได้เปลี่ยนแปลงสถานะจาก ‘เซี่ยนจู่’ แปลงเป็น ‘หย่งอันจวิ้นจู่’ ไปโดยปริยาย นางอุตสาหะช่วยฉางเกอ อย่างเต็มความสามารถ เท่าที่หญิงเปราะบางคนหนึ่งจะทำเป็น แต่ว่าฉางเกอก็ยังถูกทางการตามล่าจนได้รับเจ็บแล้วก็ได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจาก ‘อาซือเล่อสุ่น’ หรือ ‘สุ่นเท่อฉิน'(อู๋มองย) หัวหน้ากองทัพอิงซือ ลูกบุญธรรมของ ‘ต้าเค่อหาน’ ประธานของเผ่าอาซือเล่อ หรือชนเผ่าท้องทุ่ง ที่เข้ามา สืบในฉางอัน เพื่อคิดแผนยึดเมือง
อาซือเล่อสุ่น แนะนำตัวเองว่าชื่อ ‘อาจุ่น’ รวมทั้งฉางเกอเองให้เขาเรียกนางว่า ‘สิบสี่’ สองคนผูกไมตรีต่อกัน ชนจอกสุรากันเหมือนชาตินักรบในจุดนี้นางเอกก็เป็นเจ้าฮะนั่นแหละจ้ะ ละครไทยเพศหญิงติดหนวดแล้วเลียนแบบเป็นชาย ของจีนหนักกว่าเยอะแยะ เพียงแค่เปลี่ยนแปลงมาสวมเสื้อผ้าเพศชาย บนหัวไม่มีปิ่นสำหรับปักผมก็เป็นเพศชายได้แล้ว แม้กระนั้นหัวข้อนี้ แรงวทางซือแต่งชายแล้วหล่อมากมาย ลุคหลัวแห่งชาติกันอย่างยิ่งจริงๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น